วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ชมทุ่ง บ้านสนม

อยากรู้จังว่า...วันๆ กลางท้องทุ่งนา เขาทำอะไรกันบ้าง ทริปนี้ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้เ้ส้นทางบนสันห้วยวังแคน ทะลุออกบ้านสำโรง ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์ และต่อไปยังป่าหนองจัน แล้วเข้าบ้านสนม เป็นการจบทริป ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ทริปนี้ไม่มีอะไรหวือหวามากนัก เพียงแต่อย่างน้อยก็ทำให้เราๆ ท่านๆ ได้เปิดโลกทัศน์ในอีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้สัมผัส



แหล่งท่องเที่ยวเืพื่อการพักผ่อนก็มีอยู่มากมายหลายที่ แต่ละที่ก็มีความพิเศษ และข้อดีแตกต่างกันไป หากเลือกที่พักผ่อนให้เหมาะสมกับตัวเอง ก็จะเกิดความคุ้มค่าสูงสุด ในวันพักผ่ิอนสบายๆ แบบไร้ขีดจำกัด อิ่มกายใดเล่าจะเท่าอิ่มใจ...

สำหรับทริปห้วยวังแคน และป่าหนองจัน ถ้าหากเที่ยวป่าเที่ยวดงตามประสาแบบจริงจังแล้ว คงใช้เวลาเต็มวันเป็นแน่แท้ ประเดิมเซ็ตแรก...เมื่อแรกพบเห็นท้องทุ่งนาช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี ก็จะพบแต่ต้นข้าวในทุ่งนาอันเวิ้งว้าง สิ่งแรกที่นึกถึง คือ อยากจะเอาเปลสักใบมาผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ให้ฉ่ำใจทั้งวันเลย แลทุ่งนาเขียวสดไกลสุดลูกตา มีป่าไม้คั่นกลางระหว่างท้องฟ้าที่แสนจะสดใส ธรรมชาติของที่นี่ตอบโจทย์ชีวิตแห่งการพักผ่อนได้เหมาะสม พอดี และลงตัวที่สุดสำหรับผู้รักธรรมชาติสไตล์นี้

ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ได้มีโอกาสย่ำเท้าไปใช้ชีวิตท่องเที่ยวแบบปักหลักก็หลายที่ อาทิ ยุโรปเหนือ 2 ปี, ภาคใต้ 3 ปี, ภาคตะวันออก 2 ปี, ภาคเหนือ 2 ปี, ภาคกลาง 4 ปี และล่าสุดก็เป็นบ้านสนมของเรา และพบว่า..สนม เหมาะกับสถานที่พักผ่อนที่ให้ความเงียบสงบดีมาก ไม่ต้องกลัวเรื่องโจรผู้ร้าย เรียกได้ว่าอาชญากรรมเนี่ยะ นับครั้งได้เลยในแต่ละปี ผู้คนยิ้มแย้มให้ความเคารพกันและกัน สนมมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ สนมไม่เคยเกิดเหตุการณ์ภัยทางธรรมชาติที่ร้ายแรงขั้นเสียหายอย่างหนัก สนมไม่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจนทำให้นาข้าวเสียหายจนถึงขั้นชาวนาต้องสิ้นเนื้อประดาตัว และท้ายสุด...สนม มีกิจกรรมเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอยู่เสมอจากความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้นในด้านดีของคนในชุมชน เิดินทางท่องเที่ยวตามทริปห้วยวังแคน และป่าหนองจัน ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และได้อาหารตาอีกหลายรายการ มันช่างมีความสุขเหลือเกิน เมื่อเทียบกับที่ต้องทำงานอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ ทุกวัน

ถนนลาดยางสีดำเข้ม ตัดกับสีเขียวของทุ่งนาข้างทาง มองดูแล้วสะอาดตายิ่งนัก อากาศดีมากๆ หากได้นั่งรถเปิดประทุนขับยลโฉมท้องทุ่งนาข้างทางไปเรื่อยๆ พร้อมรับอากาศบริสุทธิ์แสนสดชื่นช่วงยามเย็นก่อนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า คิดว่านี่เป็นสวรรค์บนดินที่วิเศษมากทีเดียว เที่ยวได้ไม่มีเบื่อแน่....โอว...สุดยอด...

ทุ่งนา หญ้าเขียวเวิ้งว้างนี้ ทำให้อดคิดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ไหว ก็ขอเล่าเสริมความบันเทิง หรือออกแนวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็แล้วกันนะครับ อดีตที่ผ่านมา...มีอยู่ช่วงหนึ่งเคยขึ้นไปบนตึกสูงๆ ไปอยู่ชั้นที่ 24 ของตึกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มองจากดาดฟ้าลงมา ไม่เห็นพื้นถนนเลย แต่สิ่งที่พบเห็น คือ ควันสีเกรย์อมดำปกคลุมไปทั่วบริเวณ และเห็นเพียงยอดตึกที่อยู่ใกล้เคียงกัน เข้าใจว่า...เป็นหมอกควัน และฝุ่น ที่ลอยตัวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้ คิดแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันว่า....เรากำลังหายใจเอาอะไรเข้าไปบ้าง หันไปทางไหนก็มีแต่คนต่างชาติเต็มไปหมด ซื้อน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่ง (ขอสงวนการใบ้ชื่อยี่ห้อน้ำดื่ม) เพียง 500 ซีซี ราคา สามพันบาท ร้อง (อุทานบอกตัวเอง) โอ้โห...นี่หรือโลกมนุษย์ น้ำวิเศษหรือท่าน... อนาคตถ้าโลกเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้หมด แล้วเราจะอยู่ได้อย่างไรกันหนอ... นี่แหละคือส่วนดีของท้องทุ่งบ้านนาสนม ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มีส่วนคิดสะกิดต่อมความสมดุลย์ในวันนี้...ขอบคุณ...ขอบคุณ...ขอบคุณท้องทุ่งนาสนม....


ดู ห้วยวังแคน ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า



ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง : รวมภาพท้องไร่ ท้องนา อ.สนม จ.สุรินทร์

ไม่มีความคิดเห็น: